วิธีรักษาโรคออทิสซึ่ม

ณ วันนี้วันที่ 15 กรกฏาคม 2558 ยังไม่มียาใดใดสามารถรักษาโรคออทิสซึ่มได้ ส่วนการบำบัดนั้นก็ขึ้นอยู่กับบุคคลและวิธีการบำบัด ฉันเองก็บอกไม่ได้ว่าวิธีบำบัดหรือทำสิ่งใดแล้วจะทำให้ลูกหายจากโรคนี้ แต่ฉันก็ไม่อยู่นิ่งลองผิดลองถูกแล้วบันทึกผลลัพธ์ของแต่ละสิ่งที่ฉันทำ ซึ่งฉันคิดว่ามันอาจเป็นผลดีกับคนอื่นไม่มากก็น้อย
อยากให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการเลือกปฏิบัติให้รอบคอบ ถ้าสิ่งให้เกินกว่ากำลังไม่ว่าจะเป็นกำลังกาย กำลังใจ หรือ กำลังทรัพย์ ก็ไม่ควรเลือกที่จะปฏิบัติ เพราะสิ่งที่ฉันทำ ผลลัพธ์มันอาจออกมาไม่เหมือนกัน ลูกของฉันยังไม่ได้หายจากโรคนี้ และฉันก็บอกไม่ได้ว่าจะหายหรือไม่ เพียงแค่อยากจะเล่าสู่กันฟังและถ้าเป็นไปได้ก็อยากได้รับคำแนะนำกลับมาบ้าง

ฉันเคยเกริ่นไว้ว่า ปัญหาของโรคนี้นั้นเหมือนปมเชือก บางปมก็ยากที่จะแก้ บางปมแค่สะกิดก็ออก ฉันลองเขียนลงในกระดาษเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูก แล้วค้นคว้าสิ่งที่สามารถช่วยให้พฤติกรรมนั้นๆดีขึ้น
1. ไม่ค่อยยอมพูด
2. โบกมือข้างหน้าตัวเอง
3. อยู่ไม่นิ่ง
4. ไม่ชอบมองหน้าคนพูด
5. ท้องผูก
6. นอนน้อย
7. ปิดหูบ่อยๆ
8. กัดมือตัวเอง

นอกจากการบำบัดการพูด Speech Therapy, การบำบัดทางสมอง Neurofeedback, และการบำบัดด้านพฤติกรรม Applied Behavior Analysis ABA แล้ว ฉันก็เริ่มจากอาหารที่เขากิน

***ฉันใช้วิธีที่แพทย์แนะนำ ในการทดลองสิ่งต่างๆกับลูก วิธีนั้นก็ง่ายมาก เพียงแค่ต้องใช้ความเอาใจใส่กับระยะเวลา ขั้นตอนที่ 1 บันทึกพฤติกรรม 1-2วัน ตั้งแต่เช้ายันค่ำ บันทึกพฤติกรรมของเด็กว่ามีอาการอะไรบ้าง กี่ครั้งหรือนานแค่ไหน

ขั้นตอนที่ 2 ตัดตัวแพ้ทุกตัวเป็นเวลา 2อาทิตย์ ตัวแพ้มี ถั่วลิสง, ไข่, ถั่วเหลือง, Gluten, นมวัว, และสีผสมอาหาร(ดัดแปลง) *ตัวไหนที่ลองแล้ววิเคราะห์ได้ว่าดีขึ้น ก็สามารถบริโภคในระยะนี้ได้

ขั้นตอนที่ 3 ลองๆ เป็นเวลา 2อาทิตย์ ลองสิ่งแรกที่ต้องการลองเช่น สิ่งแรกต้องการลอง บลอกโคลี่งอก Broccoli Sprouts ภายใน 2อาทิตย์นี้ห้ามบริโภคสิ่งที่ยังไม่ได้ลอง (ถ้าลองสิ่งที่สามารถบริโภคสามมื้อ ให้ทั้งสามมื้อเป็นสิ่งนั้น เช่น ถ้าลองนมวัว ให้ดื่มนมวัวในตอนเช้า กลางวัน และเย็น หรือมากกว่านั้น)

ขั้นตอนที่ 4 บันทึกพฤติกรรม 1-2วัน  ตั้งแต่เช้ายันค่ำ ดูว่าพฤติกรรมลดลง หรือเพิ่มขึ้นอย่างไร 

ขั้นตอนที่ 5 วิเคราะห์ ° ถ้าดีขึ้นก็สรุปได้ว่าควรบริโภคสิ่งนันต่อไป
° ถ้าเท่าเดิม ให้ยืดเวลาในขั้นตอนที่ 3ออกเป็น 3-4อาทิตย์

° ถ้าแย่ลง ให้หยุดทันที

ขั้นตอนที่ 6 ลองสิ่งใหม่แล้วย้อนกลับไปที่ขั้นตอนที่ 1

- สิ่งแรกที่ฉันได้ลองกับลูกคือ ให้เขาทานบลอกโคลี่งอก Broccoli Sprouts ตอนนั้นเขาอายุได้ประมาณ 4ปี ดูข่าวทางทีวี บอกว่ามีการคิดค้นทางวิทยาศาตร์ว่าบลอกโคลี่งอกสามารถลดอาการของออทิสซึ่มได้ และมีแนวโน้มที่จะรักษาโรคนี้ได้ แต่ต้องทานในรูปแบบของสารสกัด ฉันบดครึ่งเม็ดใส่นมให้ลูกทานทุกวัน ประมาณ 3เดือน ทุกคนรอบข้างถามฉันว่าให้ลูกไปทำอะไรมา เหมือนเป็นคนละคน เขาฟังคำสั่งแล้วปฏิบัติตาม อยู่นิ่งๆได้ มองหน้าคนพูด เริ่มเรียกร้องสิ่งที่ต้องการมากขึ้น เช่น ใส่รองเท้า อยากกินไอศครีม อยากกินขนม รัดเข็มขัด อยากเข้าห้องน้ำ ฯลฯ และการขับถ่ายก็ดีขึ้น จากที่ถ่ายวันเว้นวัน เขาก็ถ่ายทุกวัน
บลอกโคลี่ มีสาร Sulforaphane ที่ช่วยป้องกันโรคมะเร็งหลายโรค และช่วยขจัดสารพิษในร่างกาย

- งด Gluten
Gluten เกิดจากการอยู่รวมกันของโปรตีนสองตัวคือ gliadin และ glutenin จะพบในธัญญพืชข้าว ข้าวสาลี (wheat) ข้าวไรย์(rye) รวมถึงธัญญพืชพี่เป็นการผสมพันธ์ระหว่างข้าวสาลีและข้าวไรย์ และข้าวบาร์เลย์(barley)
Gluten ทำให้เกิดโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของช่วงท้อง (celiac disease) และมีผลวิจัยแสดงว่า gluten เป็นสาเหตุที่เกิดโรคอื่นๆ เช่น ออทิสซึ่ม โรคขับถ่ายไม่ปกติ และโรคปลอกประสาทอักเสบ

- ให้กินผักและผลไม้มากขึ้นแต่ต้องเป็นที่ปลอดสารพิษเท่านั้น
- งด ถั่วลิสง
- งด นมวัว
- งด สีผสมอาหาร ผลวิจัยจากประเทศอังกฤษเผยว่าสีผสมอาหารมีผลกระทบต่อสมองและร่างกาย มันทำให้เด็กมีไอคิวต่ำลง และเกิดความไฮเปอร์มากขึ้น
ตอนช่วงงด Gluten กับนมวัว ได้สัก1 เดือน มีหลายคนทักว่าเขามีสายตามองหน้าผู้คนมากขึ้น ต่อมางดถั่วลสงและสีผสมอาหาร จากที่เคยกัดมือตัวเองทุกๆ10วินาที ก็กลายเป็นครั้งเดียวช่วงเขาโมโหหรือไม่กัดเลยในบางวัน ส่วนผักและผลไม้ปลอดสารพิษนั้นช่วยให้ท้องไม่ผูก มีสายตามองหน้าผู้คนมากขึ้นอีก และนั่งลงทำงานได้นานขึ้น

- ให้แช่น้ำเกลือแมกนีเซียมซัลเฟต Epsom salt
ตั้งแต่ให้แช่น้ำเกลือประมาณอาทิตย์ละครั้ง เขาก็นอนได้นานขึ้น บางทีถึงกับนอนกลางวัน จากที่ตื่นทุกๆ 3-4 ชัวโมง เขาก็นอนได้ 9-10 ชั่วโมง นอนกลางวันประมาณ 1-2ชั่วโมง
Epsom salt ชื่อเหมือนเกลือ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เกลือ มันเป็นแร่ธาตุบริสุทธิ์ที่ประกอบแมกนีเซียมและซาวเฟต ซึ่งแร่ธาตุทั้งสองสามารถซึมซับทางผิวหนัง แมกนีเซียมจะซึมซับถึง 325เอนไซม ช่วยลดอาการของแผลอักเสบ ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เส้นประสาทและเส้นเลือดแดง ซาวเฟต ช่วยให้ร่างกายรับสารอาหารได้ดีขึ้น ถ่ายเทสารพิษในร่างกายและลดอาการไมเกรน

- ใช้ยาสระผมปลอดสารและยาสีฟันปลอดสาร
ตั้งแต่ฉันให้ลูกแช่น้ำเกลือแมกนีเซียมซัลเฟต ซึ่งเป็นตัวที่ช่วยดูดสับของเสียให้ออกร่างกาย ฉันจึงคิดว่าฉันก็ไม่ควรจะใส่ของเสียให้เขาเพิ่มขึ้นไปอีก ฉันเลือกทั้งสองผลิตภัณฑ์นี้เพราะฉันเช็คแล้วว่าพวกมันไม่มีสารเคมีเจือปน จริงๆฉันมีรายชื่อถึงสารเคมีที่ควรหลีกเลี่ยงแต่ยังหาไม่เจอ(หื่ม...ขอโทษทีนะคะ จะรีบหาให้เจอ)

- ให้ทานน้ำมันตับปลา DHA ในตัวนี้จะช่วยในเรื่องสมองให้มีการเติบโตที่ได้ขนาดทางแพทย์ของลูกแนะนำมาคะ ที่เลือกตัวนี้เพราะทานง่ายไม่เหม็นและไม่มีสารเจือปนของเมอร์คิวรี่ ฯลฯ ที่เป็นสาเหตูหนึ่งของโรคออทิสซึ่ม *ถ้าลูกไม่สามารถเคี้ยวเจลได้ ให้เจาะรูแล้วบีบใส่ปากเขา หรือไม่ก็บีบใส่อาหารหรือเครื่องดื่มให้เขาทาน

วันที่ 15 มิถุนายน

- ให้ทานน้ำผลไม้ที่มี Antioxidantสูง ผลไม้จำพวกนั้นคือ บลูเบอรรี่ สตอเบอรรี่ อวาคาโด้ ลูกพรุน ฯลฯ ผลที่ได้คือ เข้าภาษาได้ยาวขึ้น พูดประโยคได้ยาวขึ้น มีสมาธิมากขึ้น
- นักบำบัดระบบประสาท(OT) และ นักบำบัดการพูด(Speech Therapy) บอกว่าไม่จำเป็นต้องไปบำบัดอีกแล้ว เพราะระบบประสาทมีการควบคุมเป็นอย่างดี แต่นักบำบัดการพูดให้เหตุผลที่ว่า การพูดที่มีพฤติกรรมเข้ามาเกี่ยวข้องนั้นต้องมีการรักษาโดยเฉพาะ การบำบัดการพูดจะช่วยอะไรได้ไม่มาก
- ฉันเข้าเรียน พฤติกรรมบำบัด ABA โดยผ่านการสอนจากนักบำบัดโดยตรง (เมื่อก่อนเรียนทางออนไลน์ ก็ว่าแพงแล้ว ตอนนี้เรียนจากนักบำบัดโดยตรง แพงโข......คะ) เป็นการบำบัดระยะยาว แต่ผลที่ได้ในเดือนแรกคือ เขาเรียกให้คุณแม่หรือคุณพ่อมาเล่นกับเขา เขาบอกให้น้องเขาขยับออกไป(เมื่อก่อนจะผลักน้องให้ขยับ) เขานั่งร่วมกับคนอื่นๆตอนดูทีวีได้(เมื่อก่อนจะวิ่งไปมาๆๆๆๆข้างหลังโซฟา) หนทางยังอีกยาวไกลคะ แต่จะสู้ต่อไป

วันที่ 1 สิงหาคม
- ลดประมาณบลอกโคลี่งอก จากที่ให้ทุกวัน เป็นให้ทุกอาทิตย์ อาทิตย์ละประมาณ 1-2ครั้ง เพื่อให้ร่างกายมีการขวบคุมขับถ่ายได้ด้วยตัวเอง แต่ยังต้องการให้เขาได้รับสาร Sulforaphane ที่จำเป็นต่อร่างกาย
 วันแรกๆเขามีอาการท้องผูก เพราะเป็นการปรับตัว แต่หลังจากนั้นมีการถ่ายที่ปกติ ถ่ายทุกวัน ไม่มีกลิ่นแรง และมีปริมาณปลานกลาง(ไม่มากเหมือนเมื่อก่อน)


**ฉันจะคอยอัฟเดทหน้านี้เรื่อยๆ ถ้ามีอะไรที่น่าสนใจ ทำแล้วได้ผล หรือข้อมูลใหม่ๆ จะมาลงให้อ่านกัน


ของเล่นสำหรับเด็กออทิสติก
กดชอบที่ Facebook เพื่อข้อมูลเพิ่มเติมและ ABA รายสัปดาห์